วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

2013 Mitsubishi ประกาศราคา Attrage พร้อมท้าชิง eco car 4 ประตู


Mitsubishi ประกาศราคา Attrage พร้อมท้าชน Nissan Almera และ Honda Brio Amaze แบบจัดเต็มสุด ๆ


Mitsubishi Motor ประเทศไทยเริ่มเปิดแนวรุกตลาดรถยนต์นั่งครั้งใหญ่ในปี 2013 กันอีกครั้งด้วย Mitsubishi
Attrage อีโคคาร์ซีดานคันที่ 3 ของตลาดเมืองไทย หลังจากที่เปิดตัว Mitsubishi Mirage อีโคคาร์ตัวถังแฮทช์แบค 5 ประตูที่มาพร้อมกับกลยุทธ์การทำตลาดทุกรูปแบบจนทำให้สามารถผลักดันยอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถอีโคคาร์ท้ายตัดได้สำเร็จ จากความสำเร็จในกลยุทธ์ดังกล่าวก็น่าจะเป็นสูตรสำเร็จในการทำตลาดรถรุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน

alt


รายละเอียดในเบื้องต้นของ Mitsubishi Attrage ก็ยังคงพึ่งพิงงานวิศวกรรมหลัก ๆ จาก Mitsubishi Mirage อยู่เช่นเคย ด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve รองรับทั้งเบนซิน 91 และ 95 แก๊สโซฮอล์ 91, 95 และ E20 และตั้งเป้าให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร (ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานยุโรป UNECE Reg.101 Rev.01 Combine Mode) มาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 จังหวะ พร้อม Sportronic และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนและให้การประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

จุดขายสำคัญของ Mitsubishi Attrage คงหนีไม่พ้นด้านโครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งด้วยเหล็กชนิดพิเศษ 
“High Tensile Steel” รวมทั้งกรรมวิธีในการลดน้ำหนักตัวถังลงไปและออกแบบตัวรถตามหลักอากาศพลศาสตร์จนทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียงแค่ 0.29 เท่านั้น



มิติตัวถังของ Mitsubishi Attrage ใกล้เคียงกับ Toyota Vios เจเนเรชั่นที่แล้วอย่างมาก (แต่เล็กกว่าคู่แข่งอย่าง Nissan Almera แต่ก็ใหญ่กว่า Honda Brio Amaze อย่างเห็นชัด)ด้วยความยาว 4,245 มม. กว้าง 1,670 มม. สูง
1,510 มม. มีความยาวฐานล้อ 2,550 มม. เท่ากับ Toyota Vios ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่

ออพชั่น Mitsubishi Attrage ทุกรุ่นย่อยจะติดตั้งกระจกไฟฟ้า,, กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า, กุญแจรีโมต, ที่ท้าวแขนเบาะหลังพร้อมหลุมวางแก้วน้ำ, เครื่องเล่น CD/MP3 พร้อมช่องต่อ AUX, มาตรวัด Combine Meter แสดงผลความประหยัดน้ำมันได้, ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและ ABS/EBD 

หากขยับเป็นรุ่น GLS ก็จะได้ไฟตัดหมอกหน้า, ล้ออัลลอย 15 นิ้ว, ไฟเลี้ยว LED, มือจับประตูด้านในโครเมี่ยม, แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้า, แอร์อัตโนมัติ, กุญแจ KOS, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, ถุงลมคู่หน้า

รุ่น GLS Limited จัดเต็มจนรถคอมแพคท์บางรุ่นมีอายม้วน!! เริ่มจากเบาะหนังสีเบจ, พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งสีเงิน, กล้องมองหลัง, ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, ระบบนำทางในรถยนต์, Bluetooth, เครื่องเสียงรองรับ DVD






โดยสรุป Mitsubishi สามารถดักคู่แข่งตัวฉกาจทั้ง Nissan Almera และ Honda Brio Amaze ด้วยความลงตัวของแพจเกจรถและออพชั่น โดยเฉพาะด้านออพชั่นที่นำเสนอความคุ้มค่าเกินหน้าเกินตากว่าคู่แข่ง

โปรโมชั่น Mitsubishi Attrage สำหรับลูกค้าที่จอง 9,000 คันแรกจะได้รับส่วนลดเงินคืน 10,000 บาท และประกันภัยชั้น 1 Diamon Protection

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

2013 NEW Toyota ECO CAR (Yaris) ด่วน! เผยภาพคันจริง แบบหมดเปลือก

ตอกย้ำการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของ Headlight Magazine แบบชัดเจน ว่าว่าที่รถยนต์ ECO CAR ของค่ายยักษ์ใหญ่ Toyota จะใช้ชื่อว่า Yaris โดยเป็นคนละโมเดลกับตลาดโลกอย่างแน่นอน เพราะล่าสุดช่องฉายคลิปบน YouTube อย่างเป็นทางการของ Toyota (@TOYOTAglobal) ได้ปล่อยภาพแรกของ NEW Toyota Yaris ออกมาเรียบร้อย เตรียมเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Auto Shanghai 2013 ที่กำลังเริ่มขึ้นแล้ว

alt
alt
alt

จากรูปลักษณ์ภายนอก เป็นไปตามการบอกเล่าจากแหล่งข่าววงในทั้งสิ้น ว่ารูปลักษณ์ด้านหน้าของ ECO CARค่ายโตโยต้า จะออกแนวสปอร์ต ดุดัน จนเรียกได้ว่าเอาใจหนุ่มๆเสียมากกว่า โดดเด่นด้วยแนว Keen Look ตามสไตล์โตโยต้ายุคใหม่ พร้อมโคมไฟหน้า กระจังหน้า และชุดกันชนหน้าที่ถูกออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวจนแลดูคล้ายด้านหน้าของ Mitsubishi Lancer EX ไม่น้อย

alt
alt
alt

และมีรูปลักษณ์ตัวถังทั้งหมดถอดแบบมาจาก Toyota Dear ~qin~ Concept ซึ่งเปิดตัวในปีที่แล้ว และมีความใกล้เคียงกับภาพตกแต่งทางคอมพิวเตอร์ที่ทาง Headlight Magazine ได้เปิดเผยเมื่อปลายปีที่แล้วเป็นอย่างมาก จนอาจจะกล่าวได้ว่า นี่คือตัวถังแฮตช์แบกของ Toyota Vios ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั่นเอง แต่ได้รับการออกแบบด้านหน้า และครึ่งคันหลังใหม่ และคาดว่าจะใช้ชุดคอนโซลภายในทั้งหมดร่วมกับ Vios ใหม่ อีกด้วยย้ำชัดว่าประเทศไทยจะได้ใช้ Yaris ใหม่ ที่ไม่ใช่ตัวถังเดียวกันกับเวอร์ชันตลาดโลกอย่างแน่นอน

alt
alt

ส่วนเครื่องยนต์ ยังคงยืนยันว่าในเวอร์ชันไทย Toyota จะใช้ขุมพลังใหม่ ตระกูล NR ขนาด 1.2 ลิตร แต่ยังไม่ราบตัวเลขจำนวนแรงม้า เชื่อมต่อกำลังสู่ล้อคู่หน้า ด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะถูกเปิดเผยจากการเปิดตัวในงาน Auto Shanghai 2013 นี้ และกำหนดการเปิดตัวในบ้านเรายังคงยืนยันว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ครับ

ที่มา : TOYOTA Global

headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=5670

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

2013 All New Toyota Vios เจเนเรชั่นที่ 3 : Have it All

ไม่รู้ว่ามีความรู้สึกเบื่อกันไหมที่ชาวเน็ตแทบทุกคนจะต้องถามหาความคาดหวังจากเจ้าตลาดอย่าง Toyota ว่าเมื่อไรจะทำรถให้รู้สึกเลิศล้ำประเสริฐศรีได้เสียทีโดยเฉพาะงานออกแบบที่อยากจะให้เน้นแนวสปอร์ตอย่างจริงจังหรืออย่างน้อยก็ต้อง อันที่จริงผู้เขียนก็รู้ดีว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของ Toyota ไม่ได้มาเรียกร้องอะไรกันสักเท่าไรนัก แต่ถ้ามองกันลึก ๆ แล้วก็น่าเชื่อเหลือเกินว่าลูกค้าที่ใช้ Toyota บางกลุ่มในทุกวันนี้ก็อยากให้ Toyota สร้างรถออกมาให้น่าตื่นเต้นได้มากกว่านี้

และก็โชคดีเหลือเกินที่ Akio Toyoda ประธาน Toyota Motor Corporation คนปัจจุบันก็มีคำสั่งสายตรงมาว่ารถ Toyota นับต่อจากนี้ไปจะต้องมี “ความเร้าใจที่เพิ่มขึ้น” เพราะ Toyota ก็รู้ดีว่าเสียงจากลูกค้าและสื่อมวลชนก็อยากจะให้ Toyota ปรับตัวหรือพัฒนาในการทำรถให้น่าสนใจกว่าการที่จะทำรถเพื่อกินบุญเก่าอย่างเดียว

ดังนั้น นับต่อจากนี้ไปรถยนต์ Toyota ที่ชาวไทยจะได้ใช้ก็จะสวยงามและดูโดดเด่นมากขึ้น

alt

วันที่ 25 มีนาคม 2013 Toyota Motor ประเทศไทยได้เปิดตัว All New Toyota Vios ที่มาพร้อมกับสโลแกน Have it All เรียกกันตรง ๆ คือมีทุกสิ่งในคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ดูเร้าใจขึ้น, ฟีเจอร์ที่น่าสนใจดูคุ้มค่า แต่ยังคงเครื่องยนต์กลไกไว้เหมือนเดิม 

วีออส ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์นั่งของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ใช้ชื่อรุ่นในเจนเนอเรชั่นที่ 1 ว่า “โซลูน่า” โดยเป็นรถที่เกิดจากการร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาของวิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่นเพื่อตลาดรถยนต์เมืองไทยโดยเฉพาะ จนกระทั่งได้รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีความประหยัด คุ้มค่าสูงสุดในการเป็นเจ้าของ ได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. 2540 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ต่อมา ในปี พ.ศ. 2545 โตโยต้า สร้างปรากฏการณ์ ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทยอีกครั้ง ด้วยการแนะนำเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ “โซลูน่า” ที่ปรับปรุงใหม่หมดรอบคัน ให้เป็นรถยนต์สปอร์ต ซีดาน โดยใช้ชื่อรุ่น “โซลูน่า วีออส” ที่สามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า และได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยอย่างล้นหลามเช่นเคย และยิ่งไปกว่านั้นยังขยายความนิยมด้วยการส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดในแถบอาเซียนอีกด้วย
จากนั้นในปี พ.ศ. 2550 โตโยต้าได้ต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการแนะนำเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในชื่อรุ่น “วีออส” ที่ผลักดัน
ให้ โตโยต้า ครองอันดับ 1 ทั้งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก และตลาดรถยนต์รวมของไทย ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 656,811 คัน* และยังได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าต่างชาติในแถบอาเซียน โดยมียอดการส่งออกรวมทั้งสิ้น 186,761 คัน* 



มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “วันนี้เรามีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้แนะนำรถยนต์ วีออส ใหม่ สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยแห่งนี้ โดย วีออส ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้เป็นสุดยอดยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่เหนือทุกความคาดหมายและตอบสนองต่อทุกความต้องการ ซึ่งนอกเหนือจากความคุ้มค่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดแข็งของวีออสอยู่แล้ว วีออสรุ่นนี้ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน พื้นที่กว้างขวางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า วีออส ใหม่ จะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ของโตโยต้าในปีนี้ และสามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งเมืองไทยได้อย่างแน่นอน”

มร.ทาเคชิ มัตซึดะ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า “ทีมวิศวกรโตโยต้าได้สร้างสรรค์ วีออส ใหม่ โดยมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาเพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีความคุ้มค่าเหนือราคา สร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ภายใต้แนวคิด “Value Beyond Belief” ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด และเป็นดีไซน์ที่ดูสปอร์ตหรูมากยิ่งขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน ห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าเดิมและห้องเก็บสัมภาระที่ใหญ่มากขึ้น สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น พร้อมช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ยังช่วยเพิ่มความสุขในการขับขี่ เกาะถนนดียิ่งขึ้น ตลอดจนประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันที่ได้มาตรฐานระดับโลก ด้วยคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้เชื่อว่า วีออส ใหม่ จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ซึ่งเมื่อทุกคนได้สัมผัส วีออส ใหม่ จะรู้สึกถึงความพึงพอใจและได้รับในสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า วีออส ใหม่ จะเป็นรถซีดานขนาดเล็ก ที่ตรงใจไม่เพียงแต่สำหรับลูกค้าชาวไทย แต่ยังเป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับสากล”




นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ด้วยคุณสมบัติของ วีออส ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ของตลาดเมืองไทย ซึ่งมีจุดขายใหม่หลักๆที่ถูกเติมเต็มเข้ามา ตามที่คุณมัตซึดะ หัวหน้าวิศวกรได้ให้ข้อมูลไปแล้วนั้น ผนวกกับจุดแข็งเดิมที่วีออสมีอยู่แล้ว ทำให้ วีออส ใหม่ นี้มาพร้อมกับความหลากหลายที่ครบครัน พร้อมตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ โดยเราได้ใช้แนวความคิดในการโฆษณา วีออส ใหม่ นี้ว่า “All New VIOS, Have it all” ซึ่งจะเริ่มโฆษณาผ่านสื่อต่างๆให้ลูกค้าได้รับทราบอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถรับชมและสัมผัสกับ วีออส ใหม่ ได้ทุกมุมในแบบ 360 องศา ผ่านสื่อดิจิตอลในเว็บไซต์อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังมีการจัดกิจกรรมการเปิดตัววีออสใหม่อย่างเป็นทางการที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศในวันที่ 10 – 12 พฤษภาคมนี้ รวมถึงกิจกรรมโร้ดโชว์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งเราได้จัดเตรียมรถทดลองขับไว้ให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่กันอย่างทั่วถึง โดยวีออสใหม่นี้ จะมีให้เลือกถึง 6 รุ่น 7 สี ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 559,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างมาก” 

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดภายในประเทศแล้ว ประเทศไทยยังถือเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการส่งออก วีออส ใหม่ ไปจำหน่ายในทวีปต่างๆ อีกกว่า 80 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย ถือเป็นการขยายตลาดการส่งออก รวมถึงเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมภาคการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่นเดียวกับการส่งออกรถกระบะในโครงการ IMV โดยได้ตั้งเป้าหมายการส่งออก วีออส ใหม่ ภายในปีนี้ไว้ที่ 45,000 คัน ดังนั้น วีออส ใหม่ จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ความภาคภูมิใจของ โตโยต้า เท่านั้น แต่ยังถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยด้วยเช่นกัน”

“ปีนี้ถือเป็นปีแรกของการก้าวสู่ 50 ปีต่อไป ของโตโยต้าประเทศไทยที่เราตั้งใจที่จะ “ขับเคลื่อนความสุข” หรือ Mobility of Happiness ให้กับลูกค้าและสังคมไทย ซึ่งเราหวังว่า วีออส ใหม่ นี้จะประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมทั้งสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าโตโยต้าทุกคน ในฐานะ “ความสุข” จากโตโยต้า ที่เราตั้งใจมอบให้แก่ทุกคน” มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กล่าวในที่สุด



ข้อมูลผลิตภัณฑ์ วีออส ใหม่
วีออส ใหม่
-มิติตัวรถกว้างใหญ่ขึ้น
ความยาว ความกว้าง ความสูง ฐานล้อ 

4,410 1,700 1,475 2,550 

- กระจังหน้าพร้อมแถบโครเมี่ยมรมดำ (ในรุ่น S Grade)
- กันชนหน้าสไตล์สปอร์ต พร้อมไฟตัดหมอกหน้า (ในรุ่น S Grade)
- ชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์รมดำ (ในรุ่น S Grade)
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว โฉบเฉี่ยว ปรับพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า (ในรุ่น S และ G Grade)
- มือจับประตูโครเมียม (ในรุ่น S Grade)
- ไฟท้ายแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ 
- คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมรมดำ ตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียมใหม่ (ในรุ่น S Grade)
- ล้ออัลลอยรมดำขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ พร้อมยางขนาด 195/50R16 (ในรุ่น S Grade) / ล้ออัลลอยพร้อมยางขนาด 185/60 R15 (ในรุ่น G และ E Grade) / และล้อแบบฝาครอบพร้อมยางขนาด 185/60 R15 (ในรุ่น J Grade)

ภายใน
- แผงคอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต ตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ค ขึ้นลายหนังเย็บรอบคัน (ในรุ่น S Grade)
- ห้องโดยสารภายในโทนสีดำสปอร์ตหรู (ในรุ่น S และ J Grade) และสีไอวอรี่ (ในรุ่น G และ E Grade)
- หัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมฐานเกียร์เมทัลลิก กระชับทุกการควบคุม เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่(ในรุ่น S และ G Grade)
- พวงมาลัยหุ้มหนังสไตล์สปอร์ตพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง (ในรุ่น S และ G Grade)
- ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) สตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงปลายนิ้วสัมผัส (ในรุ่น S Grade)
- มาตรวัดดีไซน์สปอร์ต (ในรุ่น S Grade)
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi information Display) แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ อาทิ ระยะทางรวม อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ระยะที่ขับได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่ และความเร็วเฉลี่ยเป็นต้น (ในรุ่น S และ G Grade)
- ไฟแสดงข้อมูลการขับขี่ ECO แสดงผลเมื่อขับขี่ในระดับที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(เฉพาะในรุ่นเกียร์ A/T)
- ชุดเครื่องเสียงดีไซน์ใหม่ รองรับ CD, MP3 และ WMA 1แผ่น
- ช่องเสียบ USB & AUX ตอบรับความบันเทิงได้หลากหลาย 
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมจอแสดงผลแบบ LCD ปรับระดับอุณหภูมิอย่างแม่นยำ (ในรุ่น S และ G Grade)
- กระจกไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam-Protection ป้องกันการหนีบด้านคนขับเพิ่มความปลอดภัย
- เบาะนั่งทรงสปอร์ต โอบกระชับ รองรับทุกสรีระของผู้นั่ง (ในรุ่น S Grade)
- กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic Glass ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า 
- ที่เก็บสัมภาระอเนกประสงค์มากมาย ช่องเก็บของด้านฝั่งคนขับ / ช่องเก็บของด้านหน้า / ที่วางแก้วคอนโซลด้านหน้า / ที่พักแขนพร้อมที่วางแก้ว และช่องเก็บของอเนกประสงค์คอนโซลกลาง
- พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ เพิ่มความสบายให้แก่ผู้โดยสารตอนหลังตลอดการเดินทาง
- ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ ดีไซน์ใหม่ให้กว้างและลึกขึ้นเพื่อบรรทุกสัมภาระได้มากกว่าเดิม
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry สะดวกสบายสูงสุด ด้วยระบบควบคุมการล็อค-ปลดล็อคประตู และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ (ในรุ่น S Grade)

สมรรถนะ
- ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) ด้วยการดีไซน์หลังคาแบบ Catamaran ช่วยลดแรงปะทะของลม พร้อมทั้งฟินที่ถูกติดตั้งบริเวณกระจกมองข้างและไฟท้าย ส่งผลให้อัตราประหยัดน้ำมันและการทรงตัวดีขึ้น
- เครื่องยนต์ระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ด้วยระบบเปิด-ปิด วาล์วไอดี ที่สอดคล้องกับทุกจังหวะของการขับขี่ เครื่องยนต์ตอบสนองทันใจและประหยัดน้ำมัน ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เครื่องยนต์ 1NZ-FE DOHC 16 วาล์ว VVT-i
ความจุกระบอกสูบ 1,497 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109ps) / 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร / 4,200 รอบต่อนาที
มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4
- ระบบช่วงล่างที่นุ่มนวลและมั่นคง ควบคุมได้ดั่งใจ ให้ทุกการเดินทางราบรื่น นุ่มนวล ด้วยระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบ ทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ให้การทรงตัวที่มีประสิทธิภาพ- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าโดยปรับเปลี่ยนน้ำหนักของพวงมาลัยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับทุกความเร็วควบคุมง่ายและแม่นยำในทุกสภาพการขับขี่

- เกียร์อัตโนมัติ Super ECT อีกขั้นของเทคโนโลยีล้ำหน้า ที่ทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างนุ่มนวลด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แบบขั้นบันได (Gate type)

ระบบความปลอดภัยแบบป้องกัน
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหันหรือเบรกบนถนนลื่น
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อให้ทำงานได้อย่างสมดุล เพื่อป้องกันอาการท้ายปัด และช่วยควบคุมรถได้ดีแม้เบรกในขณะเข้าโค้ง
- ระบบเสริมแรงเบรก (BA) จะช่วยเพิ่มแรงเบรกมากขึ้น ในกรณีเบรกกระทันหัน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ หยุดรถอย่างมั่นใจมากขึ้น ด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนสำหรับคู่หน้า ช่วยป้องกันความร้อนสะสม ขณะเบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน (ในรุ่น S และ G Grade) 
- กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้หากรหัสของ
กุญแจและเครื่องยนต์ไม่ตรงกัน
- ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System) ส่งสัญญาณเสียงเตือนภัย เมื่อมีการบุกรุก (ในรุ่น S, G,E Grade) 

ระบบความปลอดภัยแบบปกป้อง
-โครงสร้างนิรภัย GOA ที่ให้ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชน
- การออกแบบเพื่อลดแรงกระแทกศีรษะด้านข้าง ออกแบบเพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่ศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเมื่อเกิดการชน
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยลดการบาดเจ็บของศีรษะและหน้าอกจากแรงปะทะซึ่งเกิดจากการชนจากด้านหน้า
- เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) ติดตั้งที่เบาะนั่งด้านหน้า เพื่อลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอ เมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชนและลดการบาดเจ็บจากการรัดดึง ของระบบเข็มขัดนิรภัย


พบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ All New VIOS…Have it all
ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
วันที่ 26 มีนาคม – 7 เมษายน 2556
ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ อิมแพค เมืองทองธานี
พร้อมสอบถามรายละเอียด และสั่งจองได้ที่โชว์รูมโตโยต้า 364 แห่งทั่วประเทศ



 All New VIOS รุ่นใหม่ล่าสุด มี 7 สี รวม 3 สีใหม่ 
é สีแดง..Red Mica Metallic ใหม่
é สีน้ำตาล..Quartz Brown Metallic ใหม่
é สีทอง..Silky Beige Metallic ใหม่
é สีเทา..Grey Metallic
é สีขาว..Super white
é สีเงิน..Silver Metallic
é สีดำ..Attitude Black Mica
6 รุ่น ให้ครอบครอง
é 1.5S A/T เกียร์อัตโนมัติ 734,000 บาท
é 1.5G A/T เกียร์อัตโนมัติ 699,000 บาท
é 1.5E A/T เกียร์อัตโนมัติ 649,000 บาท
é 1.5E M/T เกียร์ธรรมดา 614,000 บาท
é 1.5J A/T เกียร์อัตโนมัติ 589,000 บาท
é 1.5J M/T เกียร์ธรรมดา 559,000 บาท

* (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และเครื่องปรับอากาศ)