วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มาแล้ว! Honda CITY CNG ราคาเริ่มที่ 659,000 บาท

ฮอนด้า เปิดตัว ซิตี้ ซีเอ็นจี  รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าพลังงานทางเลือกใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 659,000 บาท 

ฮอนด้า เปิดตัว ซิตี้ ซีเอ็นจี รถ ซีเอ็นจี รุ่นแรกของฮอนด้า มาตรฐานใหม่ของชีวิตฉลาดเลือกกับความคุ้มค่าด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร รองรับทั้งระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบก๊าซ CNG ที่มาพร้อมกับระบบการจ่ายก๊าซแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์และระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ มั่นใจกับระบบความปลอดภัยด้วยกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ และคานเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มเสถียรภาพในการทรงตัว พร้อมรับสิทธิประโยชน์คืนภาษีรถยนต์คันแรกสูงสุด 100,000 บาท เริ่มต้นราคา 659,000 ถึง 706,000 บาท


2012 ถือเป็นอีที่ Honda Automobile (Thailand) กระหน่ำเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ มากที่สุด

เป็นประวัติการณ์ หลังฟื้นตัวจากการเป็นผู้ประสบเหตุมหาอุทกภัยที่ราบลุ่มภาคกลาง เมื่อ
เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2012 ล่าสุด ยังไม่ทันที่กระแสการเปิดตัว Honda Jazz HYBRID 
เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาจะเบาบางลง วันนี้ (28 สิงหาคม 2012) Honda ก็เสริมทัพ
ให้กับ B-Segment Sub-Compact Sedan รุ่นขายดีที่สุดของตนอย่าง City ด้วยรุ่นติดตั้ง
ระบบก๊าซ CNG อย่างที่ทุกคนเฝ้ารอกันมาตลอด 2 ปี 



ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอก จะไม่แตกต่างไปจาก City รุ่นมาตรฐานมากนัก  มีเพียงการติด
สัญลักษณ์ CNG เพิ่มขึ้นมาที่ฝั่งขวา ของฝากระโปรงหลัง แต่ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ใต้
เปลือกตัวถัง มีหลายประการ เกินกว่าที่หลายคนจะคาดคิด



เริ่มจาก การดัดแปลงเครื่องยนต์ L15A บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,497 ซีซี หัวฉีด 
อีเล็กโทรนิกส์ PGM-FI พร้อมระบบแปรผันวาล์ว i-VTEC ให้รองรับการใช้ก๊าซ CNG 
เป็นเชื้อเพลิงเสริม สำหรับการขับเคลื่อน ทั้งการปรับปรุงโปรแกรมในกล่องควบคุม
อิเล็กทรอนิกส์ (ECU : Engine Control Unit) ให้การประมวลผลที่แม่นยำในการจ่าย
ก๊าซ CNG อย่างเหมาะสม



ติดตั้งถังบรรจุก๊าซ CNG ความจุ 65 ลิตร พร้อมแผงกั้น ในห้องโดยสาร ตามกฎหมาย
กำหนด แต่ยังมีพื้นที่ห้องเก็บของด้านหลัง เหลือเฟือพอให้ใส่ถุงกอล์ฟขนาดใหญ่ 
ได้อย่างสบายๆ 1 ใบ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง ท่อนำก๊าซแรงดันสูง ผลิตจากสเตนเลส 
ทนทาน และสามารถรองรับก๊าซแรงดันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมวาล์วกันกลับ
อุปกรณ์ลดแรงดันก๊าซทำหน้าปรับลดแรงดันของก๊าซให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด

พละกำลังจะลดลงจากรุ่นมาตรฐานเล็กน้อย จาก 120 เหลือ 102 แรงม้า (PS) ที่ 6,600
รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.9 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที



ตำแหน่งเติมเชื้อเพลิง 2 ระบบ ทั้งน้ำมันเบนซิน / แก็สโซฮอลล์ และก๊าซ CNG อยู่ใน
ฝาถังน้ำมันแบบพลาสติก เหมือนกัน ติดตั้งลิ้นกันกลับป้องกันการไหลย้อนกลับของก๊าซ 
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย และมี สวิตช์เลือกชนิดเชื้อเพลิงและแสดงปริมาณก๊าซ
ติดตั้งมาให้บนแผงหน้าปัด อย่างเรียบร้อย สวยงาม



นอกจากนี้ Honda ยังทำการบ้านกับ City CNG มามากกว่าที่คาดคิด ด้วยการปรับปรุง
ระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง สำหรับรองรับระบบ CNG โดยเฉพาะ ด้วยการเสริม
ชิ้นส่วน เข้าไปยังระบบกันสะเทือนด้านหลัง และมีการติดตั้งคานเสริม Cross Bar
บริเวณโครงสร้างด้านหลัง ที่วยึดติดพนักพิงเบาะหลัง เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่
และการทรงตัว

ดัานอุปกรณ์ความปลอดภัย ทั้งรุ่นย่อย S และ V จะติดตั้ง ถุงลมนิรภัยมาให้ถึง 2 ใบ
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD กุญแจรีโมท Wave Key
พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer สวิชต์ Central Lock ฝั่งคนขับ ฯลฯ


City CNG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐาน Euro4 รับประกันคุณภาพสูงสุด 
3 ปีหรือ 100,000 กม. พร้อมรับสิทธิประโยชน์คืนภาษีรถยนต์คันแรกสูงสุดถึง 
100,000 บาท มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ดังนี้

S CNG AT  659,000 บาท
V CNG AT  706,000 บาท

สีตัวถังมีให้เลือก 6 สี ได้แก่  แดงคาร์เนเลียน (มุก) น้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก) 
เงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) เทาโพลิชเมทัล (เมทัลลิก) ขาวทาฟเฟต้า และสีดำ
คริสตัล (มุก)

Honda ประกาศเปิดรับจอง City CNG ตั้งแต่วันนี้ 28 สิงหาคม 2012 ที่โชว์รูมของ
ผู้จำหน่าย Honda ทั่วเมืองไทย

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

All-New Hyundai Elantra 1.8 The Celebration ฉลอง 5 ปีแห่งความสำเร็จด้วยรุ่นพิเศษ ราคา 'สุดพิเศษ' เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณสู่ลูกค้า

All-New Hyundai Elantra 1.8 The Celebration
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มอบของขวัญสุดพิเศษตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในรถยนต์ฮุนไดจนสู่ความสำเร็จเป็นปีที่ 5 อย่างมั่นคง ด้วยรถยนต์ All-New Hyundai Elantra รุ่น 1.8 The Celebration ที่มาพร้อมอ็อปชั่นรุ่นท็อปในราคาสุดพิเศษเพียง 1,048,000 บาท 

alt

มร.โยชิอากิ อิชิมูระ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปี ในการเข้ามาทำตลาดของรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย เราขอมอบของขวัญแห่งความคุ้มค่าให้กับลูกค้าด้วยรถยนต์ All-New Hyundai Elantra รุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า รุ่น 1.8 The Celebration สเป็คสูงสุดที่คุ้มค่าสำหรับการฉลอง 5 ปีแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะมีจำหน่ายในจำนวนจำกัดเท่านั้น 

โดย Hyundai Elantra 1.8 The Celebration ยังคงประกอบทั้งคันและนำเข้าจากโรงงานของฮุนใดในประเทศเกาหลี และใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 1.8 ลิตร พร้อมระบบแปรผันวาล์วไอดีและวาล์วไอเสีย D-CVVT และระบบแปรผันท่อทางเดินไอดี VIS กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 178 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะเหมือนเดิม 

alt  

แต่ความพิเศษอยู่ที่การติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เช่นระบบรักษาเสถียรภาพ ESP ระบบควบคุมพวงมาลัย VSM และการติดตั้ง eco mode พร้อมคอมพิวเตอร์คำนวนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง พร้อมการติดตั้งล้ออัลลอยสปอร์ตขนาด 17 นิ้ว สวมยางขนาด 215/45/R17 ช่วยเพิ่มสมรรถนะการเกาะถนน นอกจากนี้ยังมีไฟหน้าแบบ Automatic และเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ พร้อมปรับไฟฟ้าด้านคนขับและที่ดันหลังลดอาการเมื่อยล้า รวมไปถึงระบบ Start Button และ Smart Entry มาให้อีกด้วย

Hyundai Elantra รุ่น 1.8 The Celebration เปิดรับจองแล้ว ในราคาพิเศษ 1,048,000 บาท พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1 และสิทธิการคุ้มครองตามเงื่อนไข Modern Premium Satisfaction ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นราคาขายปลีกพร้อมโปรโมชันที่ต่ำกว่ารุ่นท็อป (G) ที่ตั้งอยู่ที่ 1,198,000 บาทพอสมควร สำหรับผู้ที่สนใจสามารถแวะเข้าโชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เพิ่มไลน์ใหม่ Mitsubishi Pajero Sport เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร 219 แรงม้า

Mitsubishi Motors
เพิ่มรุ่นให้ Pajero Sport และ Triton เสริมทัพไตรมาส 3
 
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ส่ง MItsubishi Pajero Sport เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 MIVEC กำลังสูงสุด 219 แรงม้า และTriton Mega Cab Plus 178 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมเสริมทัพให้ Triton ด้วยเครื่องยนต์เบนซินในรุ่น Mega Cab Plus และDouble Cab หวังกระตุ้นยอดขายครึ่งปีหลัง เริ่มขายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

สถานการณ์การแข่งขันตลาดรถยนต์อเนกประสงค์บนพื้นฐานรถกระบะ (PPV) นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น เมื่อเริ่มมีผู้เล่นในตลาดรายใหม่ที่แข็งแกร่งเพิ่มเข้ามาคือ Chevrolet Trailblazer ก้าวเข้ามาเป็นทางเลือกทางใหม่ของลูกค้า ผู้เล่นตลาดรถ PPV รายสำคัญก็พากันเริ่มปล่อยกลยุทธ์ปกป้องยอดขายของตนเองกันตามลำดับ

วันที่ 4 กรกฎาคม 2012 Mitsubishi Motor ประเทศไทยได้แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร 219 แรงม้าเข้าสู่ตลาดอันเป็นช่วงจังหวะเดียวกับการเปิดตัว Chevrolet Trialblazer พอดิบพอดี พร้อมกันนี้ได้เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับตระกูลกระบะ Mitsubishi Triton MegaCab Plus 2.5 VG Turbo 178 แรงม้าและติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินให้กับ Mitsubishi Triton MegaCab Plus/Double Cab

alt

มร. โนบุยูกิ  มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้เตรียมขายรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร V6 MIVEC อย่างเป็นทางการที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ กับราคาขายเพียง 1,295,000 บาท หลังจากนำมาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากลูกค้าที่เข้าร่วมชมงาน พร้อมถือโอกาสนี้แนะนำรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ พลัส 2.5 วีจี เทอร์โบ 5 AT มาพร้อมสมรรถนะ และการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น จากอัตราเร่งที่ดีกว่าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sportronic ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ รวมทั้งแนะนำ ไทรทัน เครื่องยนต์เบนซินทั้งในรุ่นเมกะแค็บ พลัส และดับเบิ้ลแค็บ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า

รายละเอียดเบื้องต้นของ Mitsubishi Pajero Sport V6 จะเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร V6  สูบ 24 วาล์ว มีพละกำลังสูงสุด 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด  281 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที  มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะของระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ในรอบสูง ตอบสนองอัตราเร่งที่ฉับไวและประหยัดน้ำมันเมื่อใช้ความเร็วในรอบต่ำ พร้อมเสื้อสูบอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี ส่งผลให้ประหยัดน้ำมัน พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจซึ่งสามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม

2012 07 05 Mitsubishi 2
อุปกรณ์มาตรฐานก็ถูกติดตั้งให้อย่างครบครันราวกับรถยนต์ซีดานราคาแพง ได้แก่ ไฟหน้าแบบ HID ที่ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และการติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของไฟหน้ารถ  รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

กระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว ให้ความลงตัวและเสริมสร้างความปลอดภัยยิ่งขึ้น   คิ้วประตูหลังแบบสีเดียวกับตัวรถและโครเมียม สปอยเลอร์หลังดีไซน์เฉพาะเสริมความโฉบเฉี่ยว พร้อมกล้องมองหลังขณะถอยจอดเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่และความปลอดภัยยิ่งขึ้น  ลงตัวกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ระบบการปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle shift) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) พร้อมอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD,VCD,CD MP3 รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งาน ชุดอุปกรณ์ต่อพ่วง iPod และ USB จอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว  ระบบนำทาง (เนวิเกเตอร์) ที่สามารถแสดงภาพแผนที่นำทางและฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นในเวลาเดียวกันได้ รวมไปถึงระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (บลูทูธ) เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกในการสนทนาระหว่างขับรถ  พร้อมจอภาพแบบ WIDE Screen ขนาด ใหญ่ 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

และแน่นอนว่าขาดไปไม่ได้เลยก็คือการติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS) 

-    สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
-    ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับขี่เปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุด เมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม.
-    ระบบปลดล็อกด้วยรีโมท ช่วยให้สามารถปลดล็อกและล็อกรถได้จากระยะไกล
-    สัญญาณเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้าถ้าผู้ขับลืมปิดไฟหรี่หน้า หลังจากดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู เสียงสัญญาณจะดังเตือนขึ้น
-    ระบบตัดการทำงานไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์และเปิดประตูช่วยให้ประหยัดไฟในแบตเตอรี่


-    ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสารหลังจากดับเครื่องยนต์แล้วปิดประตู ไฟในห้องโดยสารจะค่อยๆ หรี่ดับลงเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
-    ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังดับเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้าจะยังคงสามารถเปิด-ปิดต่อไปได้อีกภายใน 30 วินาที
-    ระบบเซ็นทรัลล็อก ผู้ขับสามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานโดยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านผู้ขับ



นอกจากนี้ Mitsubishi ยังได้แนะนำ Mitsubishi Triton MegaCab Plus 2.5 VG Turbo 178 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1800-3,500 รอบต่อนาที  ตอบสนองรวดเร็วทันใจจากอัตราเร่งที่ดีกว่าด้วยระบบเกียร์อัจฉริยะ 5 จังหวะ พร้อม Sportronic ในราคา 738,000 บาท

และ Mitsubishi Triton MegaCab Plus/Double Cab เครื่องยนต์เบนซิน  2.4 L MPI ให้กำลังสูงสุดที่ 128 แรงม้า ที่
5,250 รอบต่อนาที  แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบหัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิง ECI-MULTI พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20  ราคา MegaCab 2.4 GLS 643,000 บาทและ DoubleCab 2.4 GLX 627,000 บาท

จัดเต็มๆ TATA Motors เพิ่ม Xenon Heavy Duty ส่งลุยตลาดกระบะพาณิชย์ เน้นความแข็งแกร่ง/ประหยัด/ทนทาน เป็นหลัก

 ทาทา มอเตอร์ส เปิดตัวกระบะเพื่อการพาณิชย์ ซีรี่ส์ Heavy Duty 2 รุ่นใหม่ Tata Xenon Giant Heavy Duty เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และ Tata Xenon Giant Heavy Duty CNG Plus เครื่องยนต์ซีเอ็นจี 2.1 ลิตร เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้รถเพื่อดำเนินธุรกิจขนส่งต่างๆ อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา
นายอจิต เวนคาทารามาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "ทาทา มอเตอร์ส เป็นผู้นำในตลาดรถปิคอัพเพื่อการพาณิชย์อย่างแท้จริง การเปิดตัว ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ทั้ง 2 รุ่น ทำให้ปัจจุบันเรามีรถเพื่อการพาณิชย์ถึง 6 รุ่น ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า"

ด้วยกระแสความต้องการของรถกระบะบรรทุกเชิงพาณิชย์ที่มีสูงขึ้น ทำให้ทาทา มอเตอร์ส เร่งพัฒนารถยนต์กระบะของตน ส่ง ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ เครื่องยนต์ดีเซล และซีเอ็นจี เสริมทัพไลน์กระบะพาณิชย์ และเป็นครั้งแรกของเมืองไทยกับกระบะใช้เพลา เฮฟวี่ ดิวตี้ สนองความต้องการลูกค้า ให้มั่นใจในคุณภาพและสมรรถนะ หลังเสริมความแข็งแกร่งให้บรรทุกหนักได้มากขึ้น สร้างความคุ้มค่าคุ้มราคายิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาเครื่องยนต์ซีเอ็นจีให้มีความทนทานกว่าเดิม เตรียมบุกตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่เต็มตัว เปิดตัวเรียบร้อยแล้ววันนี้ (15 สิงหาคม 2555) สนนราคาเริ่มต้นที่ 519,000 บาท 

alt

บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองการก้าวสู่ปีที่ 5 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการส่ง ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ (TATA Xenon Giant Heavy Duty) กระบะเพื่อการพาณิชย์รุ่นแรกในเมืองไทยที่ติดตั้งเพลาแบบ เฮฟวี่ ดิวตี้ ซึ่งผลิตออกมา 2 รุ่น ทั้งในรุ่นซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ และซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส เครื่องยนต์เบนซินซีเอ็นจี 2.1 ลิตรใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่ใช้รถเพื่อดำเนินธุรกิจขนส่งต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้น

alt

โดยเฉพาะในส่วนของ ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส นั้น ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ใช้ประสบการณ์ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมาในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายรถซีเอ็นจีเป็นรายแรกในไทย สร้างความเข้าใจถึงความต้องการและวิธีการใช้งานรถของผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการ ซึ่งเน้นที่การนำรถไปใช้งานหนักในการดำเนินธุรกิจ การขนส่งสินค้า เป็นอย่างดี เพื่อเป็นพื้นฐานในการการพัฒนาเครื่องยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนของไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส ที่มีความแข็ง แกร่งทนทานต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น พร้อมการติดตั้งถังบรรจุก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจีมากถึง 3 ถัง ซึ่งจะสามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลกว่า 350 กิโลเมตร ทั้งนี้ นอกจากความคุ้มค่าคุ้มราคาจากสมรรถนะของ ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ แล้ว ลูกค้ายังได้รับความคุ้มค่าจากการได้สิทธิ์คืนเงินตามนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลด้วย

alt

นายอจิต เวนคาทารามาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ทาทา มอเตอร์ส ยังกล่าวถึงการเปิดตัว ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ในเมืองไทยครั้งนี้ว่า "ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ เป็นการขยายตลาดไปยังลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความต้องการใช้งานรถที่บรรทุกได้มากขึ้น ขณะที่รถกระบะทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เครื่องยนต์ดีเซล รุ่นเพลามาตรฐาน ก็ยังมีการผลิตและจำหน่ายต่อไป เนื่องจากลูกค้าในส่วนที่ใช้งานบรรทุกทั่วไปแบบปกติก็ยังคงมีอยู่ ทั้งนี้เรามั่นใจว่าการเปิดตัว ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ทั้งสองรุ่นในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งการเปิดตัวรถทั้งสองรุ่นยังถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในดำเนินธุรกิจในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ด้วยการนำ เสนอผลิตภัณฑ์ที่รวมแล้วมากถึง 6 รุ่นในปัจจุบัน ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุดในตลาด”

alt

Tata Xenon Single Cab Heavy Duty มาพร้อมทางเลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล สนนราคา 519,000 บาท และเครื่องยนต์เบนซิน CNG สนนราคาที่ประมาณ 569,000 บาท พร้อมกับการปรับปรุงการบริการหลังการขายให้ดีมากขึ้น ด้วยการเพิ่มศูนย์บริการเป็น 65 แห่งภายในปีงบประมาณ 2555 นำระบบการจัดการผู้แทนจำหน่าย DMS (Dealer Management System) เข้ามาใช้กับดีลเลอร์ทั่วประเทศ เพื่อให้ดีลเลอร์สามารถจัดระบบบริหารและตอบสนองลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น